ชีวประวัติหลวงพ่อปาน
ศูนย์รวมความศรัทธายึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน “หลวงพ่อปาน” พระพุทธรูปฝีมือชาวบ้านที่ช่วยกันปั้นจากปูนซีเมนต์และได้บรรจุอัฐิหลวงพ่อปานไว้ภายในองค์พระพุทธรูป
ประวัติ หลวงพ่อปาน ตามคำบอกเล่าของหลวงพ่อเพี้ยน อคฺคธมฺโม และโยมลุงสำอางค์ อิ่มมาก และชาวบ้านหนองจอก ท่านเล่าว่าหลวงพ่อปานเป็นคนเขมรเขตติดต่อประเทศไทย น่าจะแถวๆเสียมเลียบได้บวชเป็นพระและชอบเดินธุดงค์ไปตามป่าตามเขาและตามสถานที่ต่างๆ พร้อมด้วยลูกศิษย์ 1 คนที่เป็นชาวเขมรเช่นเดียวกัน ได้เดินธุดงค์มาจนถึงจังหวัดลพบุรี ณ หมู่บ้านหนองจอก ระยะเวลาการเดินธุดงค์มาถึงหมู่บ้านหนองจอกใช้เวลา 6 เดือนเศษ ในการเดินธุดงค์ครั้งนี้
ซึ่งในขณะนั้นสถานที่พื้นที่ดินยังไม่มีศาสนสถานสิ่งปลูกสร้างที่คงทนถาวร มีเพียงกุฏิไม้ที่ดูคล้ายบ้านไม้ที่เก่าผุพังเป็นบางส่วนอยู่ 1 หลังแต่ก็ยังพอมีที่ที่จะอาศัยจำวัตรหลับนอนได้ และสถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นสถานที่กันดาร การเดินทางสัญจรไปมาก็ลำบากต้องใช้เดินตามคันนาของชาวบ้าน ถนนหนทางยังไม่มี ไฟฟ้าก็ยังไม่มี ต้องใช้ตะเกียงหรือเทียนเท่านั้น หลวงพ่อปานพร้อมด้วยลูกศิษย์ก็ได้จำวัตรที่นี่และปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ เพราะเห็นว่าสถานที่แห่งนี้มีความสงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติศาสนกิจเป็นอย่างมาก
เมื่อชาวบ้านได้ทราบว่ามีพระมาจำพรรษา ณ ที่แห่งนี้ก็ได้พากันมาทำบุญ และช่วยกันดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้หลวงพ่อปาน อาทิเช่น ซ่อมหลังคา บันไดและปะไม้ที่ผุพังให้ดีขึ้นเป็นบางส่วนเพื่อที่จะได้สะดวกสบายในเวลามาทำบุญ เมื่อชาวบ้านเจ็บป่วยไข้ หลวงพ่อปานและลูกศิษย์ยังได้ปรุงยาแผนโบราณให้ชาวบ้านผู้ที่เป็นไข้กินก่อนที่จะให้กินหลวงพ่อปานได้เสกเป่าก่อนที่จะให้กิน บางคนก็ให้ท่านเป่าลมพิษบ้างทำน้ำพุทธมนต์ให้ชาวบ้านนำมาดื่มและประพรมในบ้านบ้าง เวลาญาติโยมโดนคุณไสยมนต์ดำทำมีดหมอลงอาคมขับไล่ภูตผีต่างๆ เมื่อผู้ที่เป็นไข้กินแล้วอาการป่วยไข้ได้ลดลงและหายเป็นปกติ ชาวบ้านต่างดีใจ จนทำให้ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น
อยู่มาจนท่านอาพาธและได้มรณภาพลง ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันจัดพิธีตามความเหมาะสมแบบเรียบง่าย ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพและเผาศพกันเอง หลังจากนั้นชาวบ้านได้ช่วยกันนำปูนมาปั้นเป็นองค์พระพุทธรูป และนำอัฐิหลวงพ่อปานบรรจุไว้ในองค์พระพุทธรูปและตั้งชื่อพระพุทธรูปนั้นว่า “หลวงพ่อปาน” ตามชื่อของหลวงพ่อปาน และเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่ชาวบ้านช่วยกันปั้นด้วยแรงศรัทธา ชาวบ้านต่างมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้านตลอดมาจวบจนทุกวันนี้